โดย แชมป์ สุดยอดนักขับประหยัดน้ำมัน 1 ลิตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของเชลล์ ปี 2554

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เทคนิคการขับ

1. สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วไม่ต้องอุ่นเครื่อง รอให้ไฟสัญญานน้ำมันเครื่องดับ แล้วออกรถอย่างนิ่มนวล
2. หากเป็นเกียร์ออโต้ ให้ค่อยๆ เร่งความเร็วรถขึ้นไป หากเป็นเกียร์ธรรมดา ควรเปลี่ยนเกียร์ที่ความเร็วรอบเครื่องประมาณ 2,000 รอบ ต่อนาที ไม่ควรลากเกียร์ไปถึง 2,500-3,000 รอบต่อนาที เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน
3. ขับขี่ด้วยความเร็วสม่ำเสมอที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ควรขับรถเร็ว ควรขับที่ความเร็ว 60 - 90 กม.ต่อชั่วโมง หากขับรถที่ความเร็ว 110 กม.ต่อชั่วโมง จะทำให้รถเปลืองน้ำมันขึ้นถึง 30 % ไม่ควรขับแบบกระแทกหรือกดคันเร่งอย่างแรงหรือเหยียบเบรกกะทันหัน เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าการขับแบบปกติถึง 3 เท่า
4. เมื่อเห็นไฟแดงข้างหน้าควรชะลอรถ ถ้าจะให้ดี ควรกะจังหวะให้รถวิ่งผ่านไฟแดงโดยที่ไม่ต้องหยุดรถ ไฟแดงปัจจุบันส่วนมาก มีตัวเลขบอกเวลา ข้อนี้ทำได้ไม่ยากในต่างจังหวัด แต่ใน กทม. เป็นเรื่องยาก
5. เปิดแอร์ไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 24-25 องศาเซลเซียส หากเดินทางคนเดียว ควรปิดช่องแอร์ด้านผู้โดยสาร เมื่อใกล้ถึงที่หมายควรปิดสวิทย์ A/C เพื่อให้คอมเพรสเซอร์หยุดทำงาน จะช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกทาง
6. ปิดกระจกรถยนต์ให้สนิท
7. หลีกเลี่ยงช่วงที่รถติดมากๆ เช่นช่วงก่อนและหลังเวลาทำงาน เลิกงาน หากติดไฟแดงหรือจอดนานเกิน 10 วินาที ควรดับเครื่อง แล้วค่อยสตาร์ทเครื่องใหม่ จะทำให้ประหยัดน้ำมันกว่า
8. การขับบนเขา หากขับตัดโค้งได้ก็ควรทำ ถ้าเป็นถนน 2 เลน ควรระมัดระวังการขับตัดโค้งเป็นพิเศษ
9. เร่งรอบเครื่องยนต์ที่ประมาณ 1,500-2,000 รอบ หลีกเลี่ยงการเร่งรอบเครื่องยนต์จนถึงขีดแดง

เทคนิคการใช้รถ

- ไม่ควรบรรทุกสิ่งของที่ไม่จำเป็นไว้บนรถ เพราะทุกๆ 45 กิโลกรัมของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 1-2%
- หมั่นตรวจสอบและทำความสะอาดกรองอากาศของเครื่องปรับอากาศ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันได้ดีขึ้นถึง 10%
- ใช้ แร็คหลังคารถยนต์ เท่าที่จำเป็น จะสามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 5%
- ควรตรวจสอบฝาถังน้ำมัน ทุกครั้งหลังเติมน้ำมันว่า เด็กปั๊ม ปิดฝาถังสนิทดีหรือไม่ เพื่อป้องกันการระเหยของน้ำมัน
- วางแผนการเดินล่วงหน้าก่อนขับรถทุกครั้ง จะช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกทาง

ยางรถยนต์

- หมั่นตรวจเช็คลมยางให้ได้ตามมาตรฐาน ตามคู่มือรถยนต์ของท่าน ประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือ ทุกครั้งที่เติมน้ำมัน ลมยางที่ต่ำไป 1 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 1-2%
- หากเดินทางไกลควรเติมลมยางให้สูงกว่ามาตรฐาน 2-3 ปอนด์ จะช่วยให้ปลอดภัยจากการระบิดของยาง และช่วยประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น
- หากเติมลมยางขณะยางร้อน ควรเผื่อความดันลมยางให้สูงกว่ามาตรฐาน ประมาณ 1-2 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เนื่องจากค่ามาตรฐานเขาวัดตอนยางไม่ร้อน หรือวิ่งไม่เกิน 2-3 กิโลเมตร
- เปลี่ยนยางรถยนต์ตามมาตรฐานผู้ผลิต โดยทั่วไปประมาณ 2-3 ปี หรือ 50,000-60,000 กิโลเมตร

เครื่องยนต์

* ดูแล และเช็คเครื่องยนต์อยู่เสมอ

- ควรใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพสูง  สามารถดูได้จากคู่มือที่ติดมากับรถยนต์ของท่าน ควรใช้น้ำมันเครื่องเกรดรวม เช่น SAE 0w-30, 10w-40 หรือ 20w-50 ซึ่งน้ำมันเครื่องเหล่านี้ จะมีลักษณะเหลว เมื่อเครื่องเย็น และหนืดขึ้น เมื่อเครื่องร้อน ทำให้ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีกว่า น้ำมันเครื่องเกรดเดี่ยวๆ เช่น SAE40 และอย่าลืมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะที่ผู้ผลิตกำหนด ควรเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องคุณภาพดีจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากกว่าน้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำ
- ทำความสะอาดกรองอากาศอยู่เสมอ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ถ้าวิ่งทางที่มีฝุ่นมาก อาจเพิ่มความถี่เป็นสัปดาห์ละครั้ง จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มาก
- ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ตามที่คู่มือรถยนต์ของท่านแนะนำ จะช่วยให้ใช้น้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 1-2 %
- สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน ควรหมั่นตรวจสอบ รวมทั้ง เปลี่ยนหัวเทียนที่หมดสภาพแล้ว จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 5%
- ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เหมาะสม เชลล์ฟิวเซฟ ประหยัดสูงสุดถึง 1 ลิตรต่อถังในราคาเท่าเดิม

ผู้เขียน



- คว้าแชมป์ สุดยอดนักขับประหยัดน้ำมัน 1 ลิตร ของ เชลล์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2554 ที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
- เป็นตัวแทนประเทศไทย คว้าแชมป์ ประเภททีม สุดยอดนักขับประหยัดน้ำมัน 1 ลิตร ของเชลล์ ระดับเอเซีย  เมื่อวันที่ 8 กรกฏาคม 2554 ที่สนามเซปัง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
- เป็นผู้ใช้รถยนต์ นิสสันมาร์ช รุ่นแรกๆ ของเมืองไทย ปัจจุบันยังใช้เป็นรถส่วนตัว
- เคยเขียนบล็อคเรื่อง อีโคคาร์ ตั้งแต่ประเทศไทย ยังไม่มี อีโคคาร์ ออกวางจำหน่าย
- ประสบการณ์การขับรถ มากกว่า 10 ปี ขับรถมามากกว่า 4 แสน กิโลเมตร เหยียบแผ่นดินภาคอิสานมาครบทุกจังหวัดแล้ว ไม่เว้นแม้แต่จังหวัดล่าสุด คือ จ.บึงกาฬ